บริเวณพื้นที่ล้านนาที่เคยเป็นอาณาจักรล้านนาซึ่งปัจจุบันประกอบด้วยจังหวัดสำคัญ
๘ จังหวัดในภาคเหนือของไทย ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย
แพร่ พะเยา และแม่ฮ่องสอนนั้น เคยเป็นชุมชนที่มีผู้คนอาศัยมาเป็นเวลาอันยาวนานตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์และมีพัฒนาการทางด้านสังคมมาตามลำดับ
จากการสำรวจทางโบราณคดีพบร่องรอยกิจกรรมของมนุษย์ที่เก่าที่สุดจากหลักฐานที่พบในพื้นที่จังหวัดลำปาง
มีทั้งเครื่องมือหินกะเทาะแบบหยาบและชิ้นส่วนกะโหลกของมนุษย์
สันนิษฐานว่าเป็นชิ้นส่วนของมนุษย์กลุ่มโฮโม อิเรคตัส (Homo erectus) มีอายุประมาณ
๕๐๐,๐๐๐ ปี
การอยู่อาศัยของมนุษย์กลุ่มนี้อาจต่อเนื่องกันมายาวนานจากยุคไพลสโตซีน (Pleistocene) ที่มนุษย์ใช้เครื่องมือหินกะเทาะเรื่อยมาจนถึงยุคเครื่องมือหินขัดและยุคโลหะ
นอกจากนี้ยังพบแหล่งโบราณคดีเพิงผาถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า ที่มีอายุประมาณ ๓๒,๐๐๐ปี และโลงไม้ที่ปรากฏในแหล่งโบราณคดีของจังหวัดแม่ฮ่องสอนอายุราว ๑๑,๑๐๐ ปี จึงอาจกล่าวได้ว่าช่วงอายุก่อนสมัยประวัติศาสตร์บริเวณพื้นที่ของอาณาจักรล้านนานั้น
มีอายุราว ๓๒,๐๐๐-๑๑,๐๐ ปีมาแล้ว
ชุมชนก่อนสมัยประวัติศาสตร์จากหลักฐานทางโบราณคดี
หลักฐานทางโบราณคดีที่สำรวจพบในพื้นที่ต่างๆ
แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของยุคก่อนประวัติศาสตร์ของชุมชนในเมืองต่างๆ ได้เป็นอย่างดีก่อนที่จะมีการสถาปนาอาณาจักรล้านนาขึ้น
จากการสำรวจแหล่งโบราณคดีต่างๆ ในอำเภอปาย อำเภอปางมะผ้า
และอำเภอขุนยวมทำให้ทราบว่ามีการตั้งหลักแหล่งของมนุษย์อยู่ในบริเวณนี้มาตั้งแต่สมัยไพลสโตซีน ตอนปลายและมีพัฒนาการมาจนถึงสมัยโฮโลซีน (Holocene) ตอนปลายเหมือนที่จังหวัดลำปาง อีกทั้งที่อำเภอปางมะผ้ามีการค้นพบโครงกระดูกของมนุษย์ยุคก่อนปัจจุบัน
โฮโม ซาเปียนส์ (Homo sapiens)
และเครื่องมือเครื่องใช้หินกะเทาะ รวมถึงเศษภาชนะดินเผาที่มีการตกแต่งลวดลายเชือกทาบและลายขูดขีด
ร่องรอยการตั้งถิ่นฐานของคนยุคก่อนประวัติศาสตร์ในดินแดนล้านนานั้น
ในระยะแรกมนุษย์จะอาศัยถ้ำและเพิงผาเป็นที่อยู่อาศัย
ต่อมาจึงมีการพัฒนาทางด้านวิถีการดำรงชีพจึงย้ายมาสู่การอยู่อาศัยในพื้นที่โล่งบนดอย
สันเขาหรือริมน้ำ ในช่วงวัฒนธรรมยุคโลหะ พบร่องรอยของโลงไม้
และหลักฐานทางโบราณคดีจำนวนมากในอำเภอปางมะผ้า
แหล่งโบราณคดีที่พบส่วนใหญ่เป็นหลุมฝังศพ
ถ้ำจากเดิมที่เคยใช้เป็นที่อยู่อาศัยถูกเปลี่ยนกลายเป็นที่ฝังศพเนื่องจากไม่พบแหล่งโบราณคดีหรือหลักฐานทางโบราณคดีที่บ่งชี้ว่าถ้ำต่างๆ
ยังคงใช้เป็นที่อยู่อาศัย
บริเวณแหล่งโบราณคดีประตูผา
จังหวัดลำปางเป็นแหล่งภาพเขียนสีเพิงผาที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีอายุราว ๓,๐๐๐ - ๒,๕๐๐ ปีมาแล้ว
ภาพเขียนที่พบมีรูปมือเด็กและผู้ใหญ่ รูปสัตว์ได้แก่ วัว ม้า กวาง สุนัข
นอกจากนี้ยังมีรูปคน รูปลายเรขาคณิต อยู่กันเป็นกลุ่ม มีทั้งหมด ๗ กลุ่ม
ภาพเขียนสีเหล่านี้ได้บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตและพิธีกรรมของผู้คนยุคก่อนประวัติศาสตร์ในพื้นที่เหล่านี้
บริเวณนี้เป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีแม่น้ำปิงและลำน้ำสาขาไหลผ่านพื้นที่ ทำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การทำเกษตรกรรมและตั้งถิ่นฐานของมนุษย์
โดยเฉพาะลุ่มแม่น้ำกวงซึ่งเป็นลำน้ำสาขาที่สำคัญของแม่น้ำปิงตอนบนนั้นเป็นพื้นที่ที่พบหลักฐานการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโลหะตอนปลาย
อาทิ แหล่งโบราณคดีบ้านวังไฮ พบโบราณวัตถุหลายประเภท ได้แก่ โครงกระดูกมนุษย์
ภาชนะดินเผา แวดินเผา (อุปกรณ์สำหรับการปั่นฝ้าย) เครื่องมือหินกะเทาะ
เครื่องมือเหล็ก เครื่องประดับประเภทลูกปัดหิน ลูกปัดแร่ หินอาเกต กำไลสำริด
ต่างหูแก้ว แหล่งโบราณคดีบ้านสัมมะนะ
พบเศษภาชนะดินเผา
ซึ่งสามารถนำมาต่อกันได้เป็นรูปทรงหม้อก้นกลมขนาดเล็กและขนาดใหญ่
หม้อขนาดใหญ่ขึ้นรูปด้วยมือ เนื้อดินค่อนข้างละเอียด
ทำลวดลายเชือกทาบบริเวณก้นหม้อ ส่วนหม้อขนาดเล็กมีเนื้อหยาบ ลายเชือกทาบ
และบางใบทำลวดลายขูดขีดเป็นเส้นคลื่นรอบตัวหม้อและไหล่หม้อ
โดยผิวภาชนะมีการทำน้ำดินเคลือบและขัดมัน นอกจากนี้ยังพบภาชนะรูปทรงกระบอก
ที่มีการขัดผิวดำ และทำลวดลายขูดขีดรอบ ๆ ภาชนะ
และพบกระดูกมนุษย์ถูกฝังอยู่ร่วมกับภาชนะดินเผา นอกจากนี้ยังมีแหล่งโบราณคดีบ้านยางทองใต้
แหล่งโบราณคดีบ้านสันป่าค่า เป็นต้น
แหล่งโบราณคดีและหลักฐานทางโบราณคดีเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าบริเวณลุ่มแม่น้ำกวงมีผู้คนอยู่อาศัยดำรงชีวิตแบบดั้งเดิมในสังคมเกษตรกรรม
กระจายอยู่ตามแนวลำน้ำตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๒ เป็นอย่างน้อย
มีรูปแบบทางวัฒนธรรมร่วมกันเป็นของตนเอง และมีการติดต่อแลกเปลี่ยนกับชุมชนภายนอก
และน่าจะเป็นกลุ่มมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์รุ่นสุดท้ายในพื้นที่นี้ที่ตั้งหลักแหล่งถาวรในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเพื่ออำนวยแก่การทำการเกษตรกรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น